
รายการทีวี บล๊อกเกอร์ เพจ ต่างๆ นาๆ ได้เชิญผู้คนมากมายมาให้ความเห็นและข้อมูลจากหลายมุมมอง นักวิชาการเองก็ออกมารณรงค์เตือนทั้งวิธีการกักบริเวณตัวเองสำหรับทุกๆคนที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงและการสร้างสถานที่กักกันอย่างจริงจังซึ่งเป็นสิ่งควรทำ ในขณะที่ตัวแทนประชาชนก็ออกมาบอกถึงความกังวลที่ไร้การแก้ไข แม้กระทั่งมุมมองจากผีน้อยเองเราก็ยังมีให้ฟัง แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ยังขาดอยู่คือการชี้แจงเพื่อความกระจ่างทางข้อมูลและการตัดสินใจที่เด็ดขาดของรัฐ ซึ่ง ณ ขณะนี้ การกักตัวเองคือวิธีที่รัฐบาลตัดสินใจใช้เพื่อควบคุมการกระจายโรค โดยไม่มีทั้งแผนการณ์ติดตามการควบคุมโรคที่ต่อเนื่อง มีเพียงการโทรติดตามเพื่อตรวจสอบสถานะแต่ก็เห็นกันอยู่ว่าไม่สามารถหยุดผู้คนซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในการดำเนินชีวิตตามปกติได้

คำถามจริงๆคือ ‘การกักตัวเอง’ เป็นวิธีที่ใช้ได้จริงหรือเปล่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งคำตอบก็เริ่มทยอยออกมาแล้ว ว่ามันไม่เวิร์ค

หรือนี่จะเป็นบทเรียนของเรา ที่เราไม่ควรเอาผู้รับเหมามารับมือโรคติดต่อ นักวิชาการไม่ฟัง ฟังแต่นักวิชากู ?
ทำไมไม่มีการกักกันคนพวกนี้ในสถานที่ที่รัฐบาลจัดไว้ และมีการชดเชยให้กับคนที่ไม่สามารถไปทำงานได้บ้าง? ในกรณีนี้รัฐก็จะได้แน่ใจว่าคนพวกนี้ไม่สามารถออกไปแพร่เชื้อที่ไหนได้ และไม่ต้องตามล้างตามเช็ดที่ปลายเหตุ
เอาจริงๆ คนไทยเนี่ย ดื้อจะตาย หายากนะที่จะทำตามกฎ(หมาย)ทุกขั้นตอน เพราะบ้านเมืองเรามันคงชินกับคำว่า เส้นสาย และ ส่วย จนทำให้เราลืมไปว่า เรามีกฎระเบียบไว้เพื่ออะไร

เชื้อโรคอะ มันไม่เลือกหน้าพาสปอร์ตนะ มันไม่แคร์หรอกว่าวีซ่าคุณขาดหรือยัง
เราคิดว่าเรื่องนี้มีต้นตอมาจากรัฐบาลโดยตรงมากกว่า
รัฐบาลซึ่งมองเห็นถึงปัญหาทั้งในปัจจุบันและคาดการณ์ปัญหาในอนาคตได้บ้างแล้ว มองเห็นถึงกระแส ของความเกลียดชังอยู่ทุกวัน แต่กลับโยนความรับผิดชอบนี้มายังประชาชน ไม่หนักแน่น ไม่เข้มแข็ง ให้เค้าป้องกันตัวเอง ให้เค้ากักบริเวณตัวเอง โดยรัฐแค่ยืนบอกให้เค้าทำตามเฉยๆ มีท่านๆนายพลยืนชี้นิ้วสั่งลูกน้องตามเคย

เราไม่ควรเอา GDP ประเทศมาเป็นข้ออ้างในการจัดการกับโรคระบาด เพราะเม็ดเงินที่เสียหายจากการท่องเที่ยว(จากการกักตัวนักท่องเที่ยว) คงเปรียบเทียบกับความปลอดภัยของประชาชนในประเทศเราไม่ได้ และคงไม่คุ้มกับการตามเช็ดล้างปัญหาที่จะตามมาจากการลุกลามของโรค

การที่รัฐไม่เป็นจุดรวมของการกระจายข่าวอีกต่อไป รวมถึงความไม่โปร่งใสซึ่งเป็นความมั่นคงหลักของรัฐบาลนี้ ทำให้ความศรัทธาในข้อมูลและการตัดสินใจของรัฐจากประชาชนลดลงอย่างฮวบฮาบเช่นกัน
ประชาชนเค้าไม่โง่ เค้าใช้กูเกิ้ลเป็น อย่าลืมนะลุง
