คนที่ไปไหว้พระตรีบอกเราว่า  แค่ใช้เทคโนโลยีหาคู่ยังคงไม่พอ!

เราเถียงและล้อเลียนกันมากมายกับการไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเจอรักแท้ในวาเลนไทน์ที่ผ่านมา

แม้วัฒนธรรมนี้จะถูกมองเป็นเรื่องงมงายในสายตาหลายคน แต่การไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ก็ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของอีกหลายคน 

เราสงสัยว่าในวันที่มี อัลกอริทึม (algorithms) แอปหาคู่มากมาย ทั้งใช้ฟรี ช่วยหาคู่กันข้ามทวีป – ทำไมเรายังคงพึ่งสิ่งลี้ลับอยู่ในสังคมกรุงเทพมหานคร

ในการตามหาความรัก ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับเทคโนโลยีจะอยู่คู่กันไม่ได้ล่ะ ถ้าขนาดกรุงเทพมหานครยังมีสองชื่อได้เลย (Krung Thep Maha Nakhon และ Bangkok)!

สวัสดีคนโสด ผ่านวันวาเลนไทน์มาอีกปีแล้วนะ ทำอะไรกันในวันวาเลนไทน์บ้าง

คนโสดต้องเคยได้ยินว่าให้มาไหว้ขอคู่ที่พระตรีมูรติตรงเซนทรัลเวิลด์อย่างแน่นอน (ถึงจริง ๆ แล้วท่านจะเป็นพระศิวะ 5 เศียร) แล้วใครเป็นคนแรกที่บอกว่ามาไหว้พระตรีที่เซนทรัลเวิลด์แล้วจะได้คู่กันนะ

เราก็เคยมาไหว้พระตรีกับเพื่อนรอบนึงก่อนโควิด แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม เลยกลายเป็นมุกขำ ๆ เวลาคุยกับเพื่อนว่า คนมาขอเยอะจะตาย สงสัยยังไม่ถึงคิวเรา ฮ่า ๆๆๆ

ในขณะที่โลกของเรามีการพูดถึงการย้ายไปใช้ชีวิตใน Metaverse หรือการทัวร์อวกาศกันแล้ว หรือง่าย ๆ แอปพลิเคชั่นหาคู่ก็มีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย แต่ทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังฮอตฮิตสำหรับคนเมืองขนาดนี้อยู่นะ

ปีนี้ 2022 แล้ว แอปพลิเคชั่นหาคู่ก็มีให้เลือกมากมาย แต่ทำไมถึงยังเลือกที่จะมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิมากกว่าจะไปหาคู่ในแอปพลิเคชั่นที่ดูจะหาง่ายกว่า

ทุกคนที่เราไปคุยด้วยตอบเหมือนกันหมดว่า

“ชอบเจอคนในชีวิตจริงมากกว่า คนที่เจอในแอปพลิเคชั่นก็ไม่รู้จะโดนหลอกมั้ย หรืออาจจะเจอคนศีลไม่เสมอกัน”

แต่คิดว่าถ้ามาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ น่าจะได้คนดี คนจริงใจมากกว่า

โอ้ว คนจริงใจในเมืองนี่หายากจนต้องไปฝากความหวังไว้ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยหรอเนี่ย

การที่คนกรุงเทพฯ ยังให้ความสำคัญเรื่องการมีคู่อยู่ ก็สามารถบอกได้เลยนะว่าสังคมเราทำให้คนเหงามากจริง ๆ และการที่จะได้เจอคนใหม่ๆในเมืองใหญ่แห่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราไม่มีเวลาและพื้นที่สาธารณะมากพอที่จะได้ไปใช้หลังเวลาเลิกงาน และถึงจะมี การเดตของคนเมืองก็หนีไม่พ้น การเดินห้าง ทานอาหาร ดูหนัง (ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เงิน ! )

การไหว้พระตรีมีตั้งแต่คนเดินผ่านแล้วยกมือไหว้ เข้าไปไหว้ในบริเวณศาล บางคนก็ซื้อดอกไม้ น้ำแดงมาถวาย ไปจนถึงชุดใหญ่ ยกม้าลายมาถวายเองจากบ้าน แม้ในช่วงโควิดยังไม่ซาแบบนี้ แต่เศรษฐกิจแถวนี้สะพัดมาก มีคนแวะเวียนมาไหว้ตลอดเวลา 

นี่มันจุดนัดพบคนโสดทั่วกรุงเทพรึเปล่าเนี่ย

พี่คนขายดอกไม้เล่าให้ฟังว่า เขาขายดอกไม้ ของสักการะพระตรีตรงนี้มาเป็นสิบปีแล้ว ส่วนตัวเชื่อ และศรัทธากับเทพเจ้าอยู่แล้วว่าท่านจะนำสิ่งดี ๆ เข้ามาให้ 

วันวาเลนไทน์คนก็เยอะทุกปีนะ ยิ่งปีไหนตรงกับวันพฤหัสบดีที่เป็นวันไหว้ โอ้โห คนแน่นออกไปข้างนอก ต้องมีคนมาค่อยจัดระเบียบให้เดินออกทางเดียว

เราเข้าไปทักพี่สาวสองคนที่มาไหว้พระตรีพร้อมดอกไม้ ธูป เทียน น้ำแดงครบชุด 

เรามาขอคู่ที่นี่ครั้งแรก เพราะเคยไปไหว้พระตรีแถวห้วยขวางแล้วได้ วันนี้ผ่านมาแถวนี้เลยลองมาไหว้ดู “คนไม่เชื่อเขาก็จะหาว่าเรางมงายก็ได้ แต่เหมือนก็มาไหว้เพื่อความสบายใจมากกว่า” 

แล้วคาดหวังมั้ย ? 

“คาดหวังว่าต้องได้ คาดหวังมาก ๆ ฮ่า ๆๆ”

รู้สึกกดดันแทนพระตรีเลยแฮะ

เรามาคุยกับพี่ผู้หญิงอีกคนนึงที่เพิ่งมาไหว้พระตรีเป็นครั้งแรก เพราะเห็นคนรีวิวในติ๊กต่อก (Tiktok) เยอะ เลยตั้งใจมา

“ความจริงเราเพิ่งเลิกกับแฟน แล้วยังไม่ค่อยโอเค เลยอยากมาไหว้ เพื่อความสบายใจ”

เราแอบถามเล่น ๆ ว่าตั้งใจมาตรงวันวาเลนไทน์เลยมั้ย “ใช่ เราตั้งใจมาวันวาเลนไทน์เลย แต่พอดีติดงาน ก็เลยมาวันนี้” 

แล้วทำไมเลือกมาไหว้เทพฮินดูในวันแห่งความรักของฝรั่ง พี่เขาขำแล้วตอบว่า เหมือนมาไหว้เอาฤกษ์เอาชัยเฉย ๆ เอาความสบายใจว่ามาไหว้วันวาเลนไทน์

การได้เห็นคนไทยมาไหว้พระตรีที่เป็นเทพฮินดูในวันแห่งความรักของตะวันตก ประเทศเรานี่ที่สุดของ multi-culture เลยนะ ! สุดยอด !

เทคโนโลยีจะก้าวไปขนาดไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องหัวใจ เรื่องความรัก สุดท้ายแล้วคนเราก็ยังต้องการความใกล้ชิดที่จับต้องได้อยู่ดีละมั้ง

เราว่าทั้งแอปพลิเคชั่น และการมาไหว้ขอคู่ จุดประสงค์ที่เหมือนกันก็คือ การพาคนให้มาเจอกันไม่ว่าจะทางออนไลน์ หรือทางโชคชะตา แต่การตัดสินใจ สุดท้ายแล้วก็เป็นทางเลือกของมนุษย์คนนั้น ๆ อยู่ดี

กำลังจะกลับกันแล้ว แต่บังเอิญตอนยืนอยู่ มีครอบครัวนึง พ่อ แม่ ลูกสาวอายุประมาณ 20 กลาง ๆ เดินเถียงกันผ่านหน้าไป ใจความว่า แม่อยากพาลูกสาวมาไหว้ขอคู่ แต่ลูกสาวไม่เห็นด้วย บอกว่าคนจะเข้ามาก็เข้ามาเอง แต่เหตุผลจริง ๆ ที่แม่คุยกับพ่อก็คือ รู้ว่าตัวเองจะไม่สามารถอยู่ดูแลลูกไปตลอดชีวิตได้ ถ้าลูกมีคู่ก็น่าจะดีกว่า

ดูเป็นหัวข้อที่เจอกันได้ทุกบ้าน แต่ดูจะจริงจังขึ้นเมื่อพ่อแม่ ถึงกับพาลูกมาไหว้

คนไม่เชื่อก็ยังคงไม่เชื่อ และคนเชื่อก็ยังคงเชื่อ ไม่มีเหตุผลอะไรให้สองกลุ่มนี้ต้องมาถกเถียงกันเพื่อหาข้อสรุปที่ไม่จำเป็น เพราะสุดท้ายแล้ว เราว่าใครจะเลือกเชื่อแบบไหน หรือไม่เชื่ออะไรก็ทำตามที่ตัวเองสบายใจเถอะ แค่อย่าไปตัดสินคนอื่นก็พอ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องในโลกนี้ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ 

คนที่มาไม่ได้มีเฉพาะคนโสดที่มาขอคู่ แต่มีทั้งคนที่มีคู่มาขอให้รักกันยืนยาว มาขอให้ลืมแฟนเก่าได้ซักที หรือจะเป็นการขอให้คนไม่ดีออกจากชีวิตไป 

สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าท่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นคนบันดาลให้ทุกอย่างเกิดขึ้นรึเปล่า แต่อย่างน้อย ถ้าทำให้คนที่มาไหว้ กลับไปอย่างสบายใจมากขึ้น นี่ก็อาจจะเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงที่ได้ทันทีหลังจากมาไหว้ก็ได้นะ

Loading next article...