ตลกหน้าตายกับชีวิตจริงที่โดนบูลลี่ออนไลน์
ทำคลิปแปลงเพลงตลอดก็ไม่ได้เงินเพราะติดลิขสิทธิ์
สำหรับ พี่โย (Yoshi 300) กำลังเลือกทำในสิ่งที่รัก ไม่ว่าจะเป็น แปลงเพลงชื่อดังจาก BNK 48 คุ้กกี้เสี่ยงคุก แคสเกม เต้นบีบอย
แค่ชมว่าไอสั…ฮาวะ ก็พอใจแล้ว ไม่ต้องทักกูว่าอาบน้ำมารึยัง

ภาพชายหนุ่มหัวฟูกระเชอะกระเซิงที่ร้องเพลงลิปซิงค์หรือทำคลิปล้อเลียนที่หลายคนคงเคยเห็นผ่านตามาในอินเทอร์เน็ต ด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ และการตัดต่อที่ดูกันเองจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของ ‘Yoshi300’ จนทำให้หลายคลิปมียอดวิวมากกว่า 1,000,000 ได้ไม่ยาก แม้จะไม่ต้องพึ่งโปรดัคชั่นระดับหรู
หลังมาถึงย่านชานเมืองของโคราชท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว ชายหนุ่มร่างใหญ่หัวฟูเดินออกมารับด้วยท่าทีงัวเงียแต่พยายามทำตัวมีสติ ก่อนจะทักทายแนะนำตัวอย่างกันเองด้วยน้ำเสียงราบเรียบแบบที่หลายคนเคยชินอย่างในคลิป
‘แชะ’ พี่โย (Yoshi300) หยิบไฟแช็กที่วางไว้ข้าง ๆ แก้วน้ำบนม้านั่งหน้าบ้านหลังกระทัดรัดขึ้นมาจุดบุหรี่แล้วพ่นควันออกมาก่อนจะเกาหัวแกรก ๆ แล้วนั่งลงเพื่อคุยถามไถ่การเดินทางกับเรา ดูเหมือนว่าเวลา 11 โมงจะเช้าไปสำหรับพี่โยสินะ
เมื่อบุหรี่ไหม้จนถึงก้นกรองพี่โยก็ ‘ผายมือ’ พาเราเดินเข้ามาในตัวบ้าน จะว่ายังไงดี ดูเป็นบ้านที่ไม่ได้มีของอะไรเยอะแต่ก็ดูรกเพราะมีของใช้วางอยู่ทั่ว ดู ๆ ไปก็ไม่ต่างจากห้องที่หอพักของเราในกรุงเทพฯเท่าไหร่ พี่โยบอกเราทีหลังว่าเพิ่งจะย้ายกลับโคราชมาเช่าบ้านอยู่ได้ไม่นาน เพราะก่อนหน้าที่จะลุยทำเพจ Yoshi300 เคยทำพร็อบในกองถ่ายมาก่อน

ถัดจากห้องรับแขกไปทางซ้ายก็จะเป็นห้องทำงานอเนกประสงค์ของพี่โย เพราะนอกจะใช้ทำงานแล้วก็ยังใช้พักผ่อนเล่นเกมด้วย แต่เอาเข้าจริง ๆ การเล่นเกมของพี่โยก็ไม่รู้ว่าจะนับว่าได้พักหรือเปล่า เพราะว่าบางทีพี่โยก็ต้องแคสต์เกมด้วย (การพากย์เกมที่ตัวเองเล่น) สรุปแล้วชีวิตของครีเอเตอร์ ยูทู้บเบอร์ หรืออะไรก็ตามที่พี่โยก็เรียกตัวเองไม่ถูก จะได้พักตอนไหนกันนะ
ภายในห้องทำงานมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหนึ่งเครื่องและโน้ตบุ๊กอีกหนึ่งเครื่องตั้งอยู่บนโต๊ะที่ถูกรายล้อมไปด้วยไฟสตูดิโอหลายดวงและผ้าสีเขียวขึงไว้เป็นฉากหลัง
พอลองเปิดไฟดูก็ดูเหมือนว่าคนที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นพระเอกหรือจุดเด่นบนเวทีเวลามีใครเดินขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์
พี่โยเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเก่งหน้าคอมอย่างไม่รีบร้อนและเริ่มพูดคุยกับเราอีกครั้ง

“ตอนเด็กก็ ถือว่าเป็นเด็กเหี้ย เด็กไม่ดีคนนึงเลยอะ… ติดเกม ติดเพื่อน ถึงขั้นขโมยเงินที่บ้านไปแจกเพื่อนหลายรอบ รอบสุดท้ายที่เอาไปก็น่าจะซักอายุ 17-18 ได้มั้ง เอาของลุงไป สองหมื่นสามหมื่นล่ะมั้ง ประมาณนี้ เอาไปแจกเพื่อน ไปซื้อนู่นซื้อนี้
คนที่ดูคลิปผมที่บอกว่าขโมยตังค์ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุ 12-13 อันนั้นนี่เอามาจากเรื่องจริงเลยอะ เหมือนแบบเราอยากมี อยากสร้างอิทธิพลในโรงเรียนอะ แบบ เฮ้ย มึงต้อง Respect ในตัวกูนะ มึงต้องยอมรับในตัวกูนะ กูแจกตังค์มึงนะ ไปไหนก็ไปด้วยกันนะ แต่มันผิดวิธีไปหน่อย
ตอนนั้นยังนึกวิธีอื่นไม่ออก ตอนนั้นคิดแค่มีเงินเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนม พาเพื่อนไปเล่นเกมได้ ก็คือพระเจ้า”
แล้วตอนนั้นเพื่อน Respect เรามั้ย?
“ผมว่ามันก็หลอกแดกเรานั่นแหละ ตามประสาเด็กอะ มันก็อารมณ์เหมือนนักการเมืองอะ มึงเอาเงินมาแจกกูอะ แล้วแบบกูต้องกามึงเหรอ มันก็ไม่ แต่มันแค่รู้ว่าเรามีเงินก็เลยมาเล่นกับเรา แค่นั้นแหละ”

แล้วพี่คิดว่า Yoshi300 เป็นเกมมั้ย?
“ผมว่าเป็นนะ แต่ถ้าเป็นเหมือนเกมอะไรก็คงเป็น The Sims อะ เพราะมันต้องแบบใช้ชีวิตทำนั่นทำนี่ทำไปเรื่อย ๆ ต้องทำงานหาเงิน แต่มันแค่โกงไม่ได้แค่นั้นเอง”
เท่าที่ฟังพี่โยเล่าเรื่องวัยเด็กที่นอกจากจะเรียนไม่จบเพราะไม่อยากเรียนแล้ว ที่พี่โยให้เหตุผลคือ ‘ครูไม่เก่ง สอนไม่สนุก’ ต้องซ้ำชั้นหลายรอบจนกลายเป็นคนเก็บตัวไม่เข้าสังคมไป ยกเว้นมีงานอีเวนต์ที่เกี่ยวกับที่ตัวเองชอบถึงจะไป ซึ่งสมัยนั้นก็จะเป็นพวกงานเต้นบีบอยที่พี่โยก็เคยเอาเวลาที่หยุดเรียนไปเเข่งได้รางวัลระดับภูมิภาคมาเหมือนกัน ด้วยความที่เป็นคนชอบเก็บตัวแต่ยังมีนิสัยชอบสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบตัวนี่แหละ ถึงเกิด ‘Yoshi300’ ขึ้นมา

“จุดที่ดาร์กที่สุดน่าจะเป็นตอนที่แบบว่า เริ่มต้น เริ่มต้น ผมว่าน่าจะเป็นจุดที่แบบดาร์กสำหรับทุกคนนั่นแหละ แบบเริ่มต้นแล้วพยายาม”
เสียงของพี่โยดังก้องราบเรียบลั่นห้องทำงานท่ามกลางแสงแดดของเวลาบ่ายแก่ ๆ ที่เริ่มส่องลอดม่านออกมาเป็นแสงสว่างวาบ ๆ
“มันเป็น มันเป็นอะไรที่แบบว่าคนเขา คนที่เขาแบบไม่ ไม่ ไม่รู้จักเราอะไรเงี้ยเขาแบบ มามะ มาเหมือนแบบ อารมณ์แบบ โจมตีแล้วก็จากไป เหมือนอารมณ์แบบว่าเราเป็นเรือ เรือรบอะไรสักอย่างที่กำลังมุ่งไปหาเป้าหมาย แล้วอยู่ดี ๆ มีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่ตู้มตู้มตู้มแต่เรือไม่พังนะ พอทิ้งระเบิดเสร็จแล้วแม่งบินหนีไปเลย”
จะว่าไปก็พอจะเดาออกเหมือนกันเพราะการเริ่มอะไรจากศูนย์มันยากเสมอ เมื่อไม่ได้มีทุนอะไรเยอะแยะ ซึ่งเรามารู้เอาทีหลังว่าพี่โยเริ่มจากมือถือเครื่องละสี่พันกับสมุดเป็นตั้ง ๆ ที่เอามาใช้แทนขาตั้งกล้องสำหรับมนุษย์ที่คิดมากแบบเรา แค่เราทำงานอะไรออกมาแล้วมีคนด่าหรือแม้แต่บางทีจะเป็นการติเพื่อก่อก็เถอะ
เราก็เก็บมาคิดจนปวดหัวตุ้บ ๆ แล้ว เรียกได้ว่าความทุกข์แค่หนึ่งอย่าง ทำให้ความสุขทุกอย่างในชีวิตหายไปในพริบตาเลย

“บุคคลที่อยู่เหนือกองขยะทั้งปวง พวกขยะ อยู่เหนือพวกขยะทั้งปวง
มันดูแบบสะใจดีเหมือนแบบ พวกที่เหมือนแบบ พยายามจะเหยียบย่ำคนอื่นแต่สุดท้ายตัวเองก็เป็นได้แค่กองขยะ และเราก็เหยียบกองขยะพวกนั้น เพราะเราแบบ ก็เรา อารมณ์เหมือนแบบว่าอย่างน้อยเราก็เป็นขยะที่อยู่เหนือขยะทั้งปวง”
พี่โยพูดประโยคที่ Abstract ออกมาก่อนจะขยายความให้เราฟังว่าสำหรับเขา ใครก็ตามที่ชอบทับถมหรือกดให้คนอื่นต่ำลง พวกมนุษย์ Hate speech ทั้งหลายก็เป็นได้แค่ขยะ ซึ่งพี่โยก็บอกว่าอย่างน้อยคนที่เป็นขยะอย่างเขาก็เป็นขยะที่อยู่เหนือขยะทั้งปวงในกองขยะ เราไม่เข้าใจว่าทำไมพี่โยถึงคิดว่าตัวเองเป็นขยะแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป

พี่โยเล่าว่าสมัยเริ่มทำนอกจากจะโดนด่าโดนบูลลี่แล้ว บางคลิปก็พังด้วยตัวเองเพราะความไม่รู้อีก คือดันใช้เพลงที่ติดลิขสิทธิ์ ก็เลยกลายเป็นทำฟรี อดได้เงินด้วยซ้ำ ซึ่งถึงจะเซ็งแต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจเท่าไหร่
“บางทีเราไม่ได้สนใจเรื่องเรื่องเรื่องเงินสักเท่าไหร่ ด้วยความที่ว่าเรา เราทำคนเดียวมัน มันไม่ได้แบบ กูต้องได้เป็นล้านนะแบบ เออ เท่าไหร่มึงก็เอามาให้กูเถอะอะไรเงี้ย
ถ้าเกิดเราทำเพื่อเงินอย่างเดียวใช่ไหม โคตรไม่สนุกเลย จริง ๆ แบบการที่เราทำอะไรสักอย่างเพื่อเงินอย่างเดียวมันแบบว่า มันจะสนุกช่วงแรกสนุกแบบ ชิ๊ว เงินเยอะจังเลยอะไรเงี้ย”
“เราควรจะให้เงินมันเป็นสิ่งที่แบบ อาจจะไม่ต้องต่ำสุดอะ แต่ให้กลาง ๆ หน่อยก็ได้ แต่เอาแบบความ ความครีเอท ไว้อันดับหนึ่งก่อนเลยอะ”

แค่ 5555 นี่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอนาคตสำหรับผมแล้วครับ แค่ 555 ตัวเดียวอะ แค่มีคำว่า หุ้ยไอ้สั….ฮาว่ะ อะไรแค่นี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว
ถ้าเรา แบบว่าเหมือนแบบ ตั้งใจหรือใส่ในผลงานของเราอะ ผลงานอะมันจะคุ้มครองเราเอง ก็เหมือนแบบเราตั้งใจทำนะ งานอะมันจะคุ้มครองเราเอง”
ดูเหมือนพี่โยจะมีโปรเจ็กต์และคอนเทนต์อีกมากมายผุดขึ้นมาในหัวเรื่อย ๆ อย่างคืนนี้ก็ต้องแคสต์เกมต่อ แม้ตอนนี้ Yoshi300 จะยังไม่ได้ทำเงินให้พี่โยเป็นกอบเป็นกำ(แอบสวนทางกับยอดวิว) แต่ก็หวังว่าซักวันนึงงานของพี่โยจะคุ้มครองพี่โยในเวลาที่พี่โยลำบาก
ดีจริง ๆ ที่ยังเห็นใครซักคนบนโลกมุ่งมั่นและเริ่มจากศูนย์กับอะไรที่ตัวเองเชื่อแบบนี้ ในกระแสทุนนิยมที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสายและโหดร้ายขึ้นทุกที