End Of The Line: Storm Drain | ปลายทางของท่อน้ำทิ้ง
ฝนตก น้ำรอการระบาย น้ำท่วม ชีวิตดี ๆ ที่เคยชินของคนเมือง

แม้ระบบระบายน้ำของไทยจะไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดในโลก แต่ ณ ปัจจุบัน เมื่อระบบที่เป็นอยู่ต้องมารับมือกับขยะหลายร้อยหลายพันตันต่อวัน ก็เป็นธรรมดาที่ระบบจะทำงานได้ไม่เต็มที่

ตรรกระการทิ้งขยะหรืออะไรก็ตามลงไปในท่อระบายน้ำอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก
เมื่อเราโยนขยะทิ้งไปในท่อหรือในแม่น้ำลำคลอง ไม่ได้หมายความว่าขยะจะสลายหายไป

ถึงแม้ตอนทิ้งอาจจะไม่คิดอะไรทิ้งแค่ชิ้นเดียวเอง แต่เมื่อ “แค่ชิ้นเดียว” ของคนหลายล้านคนมารวมกัน มันก็กลายเป็นหลายล้านชิ้น จึงไม่แปลกที่ระบบระบายน้ำจะมีปัญหา

เอาจริง ๆ กับเรื่องตัวระบบระบายน้ำนี่พอเราฟังเค้าอธิบายก็ยังตอบไม่ได้นะว่ามันดีพอแล้วหรือยัง แต่พอเห็นขยะไหลออกมาจากสายพานที่ตักขยะขึ้นมาจากคลองเรื่อย ๆ

แบบนี้ก็ทำให้อดตั้งคำถามไม่ได้เหมือนกันว่าหรือที่จริงแล้วพวกเราบางคนก็มีเอี่ยวทำให้น้ำท่วมเหมือนกัน…ไม่มากก็น้อยล่ะนะ

“วันนี้เหรอครับ ขยะไม่เยอะมากครับ แค่ประมาณ 3 ตันเอง วันไหนที่เยอะ ๆ คือแบบ 10 ตัน ก็เจอมาแล้ว”

พี่เจ้าหน้าที่คุมสายพานพูดกับเราท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าว ก่อนจะหันไปพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในทีมอีกครั้ง

“อย่างตามร้านอาหารริมทางที่เค้าชอบเทเศษอาหารลงท่อ ตรงนั้นก็จะเข้าสู่ระบบลำเลียงย่อย ก็จะลงท่อ ลงบ่อสูบ จากบ่อสูบก็จะออกคลอง แล้วคลองก็จะมายังสถานีรับน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นแบบนี้ก็คือมันจะตันตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งก็จะส่งผลมายังปลายทาง มันเหมือนเราขับรถกับเรานั่งรถไฟฟ้าอะครับ รถไฟฟ้ามันก็จะขนคนได้เยอะหน่อย แต่ถ้าเป็นรถส่วนตัวก็จะขนได้น้อย มันเหมือนกันแต่ละคนก็อยู่ต่างที่ต่างทางแต่ว่ามีเป้าหมายเดียวกันก็คือสถานีรับน้ำ แต่ถ้าเกิดแต่ละคนนั่งรถส่วนตัวออกจากบ้าน (ท่อระบายน้ำ) มาช้า กว่าจะมาขึ้นรถไฟฟ้า (คลอง) กันได้ก็ช้า ก็จะทำให้ขบวนมันไปช้า การระบายน้ำมันก็เป็นไปได้ช้า

คือก็ต้องยอมรับว่าเราอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล แถมยังเกิดฝนตกและน้ำท่วมได้ง่าย มันก็เป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบ เพราะถ้าเราช่วยกัน ขยะพวกนี้มันก็นั่งรถไฟฟ้าไปถึงจุดหมายได้พร้อมกัน” หัวหน้างานยังคงอธิบายต่อ

จะว่าไปเรื่องนี้ก็ใกล้ตัวกว่าที่คิดนะเนี่ย เพราะแค่นั่งรถเข้าซอยบ้าน ก็จะเห็นร้านที่เทเศษอาหารลงท่ออยู่ 2-3 ร้านตลอดเลย หรือแม้แต่แค่พวกเราทิ้งก้นบุหรี่ลงท่อระบายน้ำหรือโยนขวดเปล่าลงคลองก็มีผลทั้งนั้น

ในทุก ๆ วันทั้งน้ำและขยะที่เล็ดลอดมาก็ต้องไหลผ่านประตูรับน้ำจากคลองพระโขนงแห่งนี้
ขยะไหลออกมาจากสายพานแบบเหมือนกับจะไม่มีวันหมด

จริง ๆ จากที่เดินเข้ามา พื้นที่บนถนนแถวนั้นก็ดูสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี แต่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะว่าน้ำในคลองที่ดูเหมือนจะไม่มีขยะ ที่จริงมีขยะนอนจมที่พื้นคลองอยู่เยอะขนาดนี้

ไม่รู้ว่าหลายคนจะรู้มั้ย ว่าผักตบชวาไม่ได้มีแหล่งกำเนิดจากไทย แต่เป็นพืชที่ถูกนำเข้ามาในฐานะไม้ประดับเพื่อความสวยงาม แต่ไม่นานผักตบชวาก็แพร่พันธุ์จนหยุดไม่ได้ นอกจากจะส่งผลให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างลำบากแล้ว ยังส่งผลต่อระบบนิเวศในน้ำอย่างมาก เพราะทำให้สัตว์น้ำขาดออกซิเจน และบังแดดจนพืชใต้น้ำไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้
“พอเรามาทำตรงนี้แล้วเราเห็นคนทิ้งขยะซี้ซั้วเราก็โกรธเหมือนกันนะ ว่าทำไมต้องมาทิ้งอะไรลงคลอง แต่ทีนี้พอเราต้องมาคอยเก็บอยู่เรื่อย ๆ ทุกวัน มันก็กลายเป็นเอือมระอาไปแล้ว

“เราก็ทำหน้าที่ของเราไป ก็เก็บให้เรื่อย ๆ จนบางทีก็คิดนะ ว่าถ้าเค้าไม่ทิ้งเนี่ย เราจะเก็บอะไร? เราจะตกงานมั้ยเนี่ย (หัวเราะ) “ พี่เจ้าหน้าที่คุมสายสายพานหัวเราะออกมาอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะพูดต่อ

“มองอีกมุมเราก็ขอบคุณเค้าแล้วกัน อย่าไปว่าอะไรเค้าเลย (หัวเราะ) ทิ้งมาก็เก็บ ไม่ทิ้งมาเราก็ว่าง”

เราเดาไม่ออกว่าพี่เขาหัวเราะด้วยความสนุกสนานจริง ๆ หรือแค่กลบเกลื่อนความเอือมระอากันแน่

“กรุงเทพฯเนี่ยมันจะมีน้ำที่เกิดจากปริมาณฝน, น้ำเจ้าพระยาหรือน้ำทะเลหนุนสูง แล้วก็น้ำหลากจากทางปทุมธานีโซนคลอง 1 คลอง 2 คลอง 3 แล้วก็คลองหกวา
หลัก ๆ คือ น้ำฝน, น้ำหนุน, น้ำหลาก

หลักการก็คือว่าเมื่อมีน้ำเข้ามาในพื้นที่ น้ำก็จะถูกรวบรวมเข้ามาทางลำราง จากลำรางก็เข้าบ่อสูบ จากบ่อสูบก็จะเข้ามาทางคลอง แล้วก็จะถูกสูบออกทางสถานีสูบแล้วปล่อยออกทางเจ้าพระยา

เมื่อคาดว่าจะมีน้ำส่วนเกิน ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำหนุน หรือน้ำหลาก เราก็ต้องพร่องน้ำเพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำส่วนเกิน ไม่ให้กระทบกับชาวบ้าน

แต่ถ้าเราลดระดับน้ำลงมาเกินไป พื้นที่ที่เค้าใช้ประโยนช์จากคลองก็จะใช้ไม่ได้

ทุกวันนี้มีการใช้ประโยชน์ทางลำคลองก็มีสูง ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำ หรือการเดินทาง แต่มันก็จะแค่ชั่วขณะนึง เพราะพอฝนตกน้ำก็จะกลับมา ถ้าเราคุมน้ำให้ต่ำอยู่ตลอดเวลา ผู้ใช้ประโยชน์ทางเรือก็จะใช้ไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่คุมน้ำก็จะล้นอีก ตอนนี้เราก็คงระดับไว้กลาง ๆ” หัวหน้างานอธิบายไปพลาง เดินไปพลาง

ถ้าอยากรู้ว่าเยอะแค่ไหน ก็เยอะแค่นี้แหละ เหตุการณ์ตรงหน้านี่เราโหนบันไดลิงถ่ายมุมนี้อยู่แค่ประมาณ1-2 นาที แต่สายพานยังคงทำงานต่อไปเรื่อย ๆ อีกเป็นชั่วโมง ๆ
พอเก็บขยะขึ้นมาจากคลองแล้ว ก็จะมีรถขยะมารอเก็บ เพื่อนำไปผ่านการแยกและกำจัดขยะต่อไป
“อุบัติเหตุก็ไม่ค่อยมีหรอกครับ เพราะทุกคนก็ชำนาญงานกันหมดแล้ว เราเจอท่อนไม้ใหญ่ ๆ บนสายพาน เราก็หลบ แต่ก็มีบ้างนะ อย่างบางทีแก้วบาด เนี่ยอย่างเราก็ยังโดนเลย (ชูมือให้ดู) แผลนี้เพิ่งโดนเมื่อวานเอง เพราะบางทีถุงมือมันก็ป้องกันไม่ได้ 100% “

พี่เจ้าหน้าที่เล่าประสบการณ์ให้ฟังเหมือนกับว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ถ้าใครดูดี ๆ ก็จะรู้ว่าในภาพไม่ได้มีแค่เงาสะท้อนของก้อนเมฆ แต่มีน้ำเน่าที่ออกมาจากท่อระบายน้ำด้วย
พวกเราหยุดตรงสายพานตักและลำเลียงขยะอีกครั้ง ก่อนเราจะได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่คุมสายพานบริเวณสายพาน

เจ้าหน้าที่: ขยะก็มีมาทุกอย่างเลยครับ แม้แต่คนก็ยังมีเลย

เรา: คนตายอะเหรอพี่?

เจ้าหน้าที่: ใช่ครับเรา แต่ก็รู้สึกว่าช่วงนี้จะห่าง ๆ ไป ไม่ค่อยเจอแล้ว บางทีปีนึงก็เจอ 2-3 คน แล้วแต่ครับ แต่ช่วงนี้ก็ดีหน่อยเพราะไม่ค่อยเจอ

เจ้าหน้าที่: เรายังจำครั้งแรกที่เจอได้เลย เป็นศพเด็กทารก ใส่ถุงขยะลอยมา เปิดถุงออกมาสายสะดือยังอยู่เลย มีทุกอย่างอะ เป็นห่อมาก็มี ลอยมาแบบไม่ห่อก็มี เป็นชิ้น ๆ ก็มีนะ แต่เราไม่เคยเจอหรอก แต่คนอื่นเค้าเจอ บางทีก็มีมาแต่หัวหรือชิ้นส่วนอวัยวะ

เราก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ที่พวกพี่เขาเจอศพลอยมา เพราะตั้งแต่เด็กก็มีข่าวทำนองนี้โผล่มาอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะชินชาหรอก…ก็แค่รู้สึกว่าภายใต้ปัญหาหนึ่งปัญหา
มันมีปัญหาอีกรูปแบบทับซ้อนและคาบเกี่ยวกันอยู่

หลังเดินผ่านสายพานตักขยะ เราก็เดินตามหัวหน้างานเข้ามาในอาคารหลังหนึ่ง

“ขยะมีผลเรื่องการระบายน้ำเยอะครับ ในช่วงที่มีปริมาณน้ำในพื้นที่เยอะ เราต้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำ การระบายน้ำก็เหมือนกับการลำเลียงน้ำจากที่หนึ่งไปยังพื้นที่ทิ้งน้ำ ซึ่งก็คือแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าระหว่างทางเกิดมีขยะเข้าไปอุดตัน ก็จะทำให้การลำเลียงน้ำและการระบายน้ำออกจากพื้นที่ล่าช้า”

“แสนแสบเป็นไงบ้าง?” หัวหน้างานหันไปถามพนักงานอีกคนที่เดินผ่านมาพอดี ก่อนจะหันมาพูดกับเราต่อ

“อย่างขยะที่อยู่ในลำคลองเนี่ย ส่วนหนึ่งเราก็จะสามารถคัดแยกได้จากข้างบนใช่ไหมครับ แต่บางส่วนเนี่ยปริมาณขยะมันก็จะเยอะแล้วก็หลากหลาย มันก็จะรอดผ่านเข้าไปในตะแกรง แล้วก็จะลอดผ่านเข้าไปในตัวอุโมงค์ มันก็จะเป็นปัญหา พอถึงเวลานึง เราก็จะต้องปิดซ่อมบำรุงอุโมงค์ และช่วงนั้นเราก็จะเก็บขยะออกมา ขยะทที่ตกค้างอยู่ในอุโมงค์โดยเฉลี่ยก็จะปีละประมาณ 30 ตัน ได้”

นอกจากปัญหาขยะจากครัวเรือนแล้ว ปัญหาหลัก ๆ อีกอย่างที่ทำให้ทางระบายน้ำอุดตันก็คือพวกวัชพืชอย่างผักตบชวา ที่ดูเหมือนจะมีเป็นจำนวนอนันต์ไม่แพ้ขยะเลย
กลิ่นมันเหม็นคาว หืน ๆ เหมือนกับน้ำในตู้ปลาที่มีปลาตาย แล้วถูกทิ้งให้เน่ามาหลายวัน
เอ่อ…ยางรถยนต์พี่ก็ทิ้งลงคลองกันด้วยเหรอครับ? ขี้เกียจเกินไปหรือเปล่าครับพี่?

จริง ๆ จากที่เคยไปสัมภาษณ์ทีมรถขยะมาแล้ว อยากขอเสริมว่า เค้ามีรถเก็บขนขยะชิ้นใหญ่โดยเฉพาะด้วยนะ ฉะนั้นถ้ามีขยะชิ้นใหญ่ อย่าโยนลงคลองเลย ถึงแม้ต้นทางจะสบายก็จริง แต่ปลายทางจะลำบากมาก ๆ

อืม…บางทีก็คิดนะ ว่าน้ำท่วมกรุงเทพฯบ่อย ๆ แบบนี้ นอกจากเราจะบ่นระบบ บ่นรัฐบาล บ่นการเมืองแล้ว ดูเหมือนว่าจะยังมีคนอีกกลุ่มที่ควรโดนบ่นมากไม่แพ้กันเลย

“ในวันที่ฝนตกหนักเราก็ต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเพราะว่าเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น การระบายน้ำก็มีทั้งสายหลักและสายรอง เมื่อเกิดเหตุก็อยู่ที่เราจะบริหารและใช้งานยังไง ให้ระบายน้ำออกไปได้เร็ว เราก็ต้องต้องติดตามตลอด อย่างถ้าช่วงมีพายุแบบนี้ ก็จะมีหน่วยป้องกันน้ำท่วมคอยรายงานว่ากลุ่มฝนเนี่ยจะเข้าตรงไหน เเล้วเราจะระบายน้ำยังไง แล้วถ้าเกิดอุปกรณ์ชำรุด เราก็ต้องส่งหน่วยเข้าไปซ่อมให้เร็วที่สุด

บางทีถ้าน้ำเข้ามาในจุดที่เป็นแก้มลิงอย่างเช่นในบึง ก็จะไม่กระทบขนาดนั้น แต่ถ้าเข้ามาในคลองที่แคบ ๆ หน่อย ก็จะกระทบเยอะ เราก็ต้องจัดการให้ดี การจัดการน้ำมันก็เหมือนการจราจรอะ ตอนช่วงรถติดเวลาเร่งด่วน คนก็จะออกจากบ้านไปทำงาน เราก็จะระบายรถ (น้ำ) ยังไง”

จำได้ว่าหัวหน้างานระบายน้ำพยายามอธิบายให้เราฟังด้วยภาษาที่ง่ายขึ้นโดยอาศัยการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ เนื่องจากเราทำหน้างงในครั้งแรกที่พี่เค้าอธิบาย

จะว่าไปขยะพลาสติกก็ยังดูเยอะอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์ต่าง ๆ

แต่ถ้าจะให้มาคิดดู หรือการทำขวดน้ำนี่ ขวดพลาสติกจะดีที่สุดแล้วหรือเปล่า ในหลาย ๆ แง่ ซึ่งก็คงโอเคแหละ ถ้าคนใช้ไม่ได้มักง่ายมาทิ้งลงคลองแบบนี้ (นี่ยังไม่นับหลอดนะ)

ก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นคนทิ้งขยะลงคลองมาบ้าง แต่ว่ายังนึกไม่ออกว่าขยะพวกนั้นเป็นยังไงต่อ หรือมันจะมีผลกระทบแค่ไหนในการระบายน้ำ เพราะจริง ๆ ทุกวันนี้พอกรุงเทพฯฝนตก

ก็จะเดาได้ทันทีเลยว่าน้ำจะต้องท่วมแน่ ๆ ซึ่งน้ำท่วมกรุงเทพฯเนี่ย ก็อย่างที่เห็นในภาพ ถ้าเราจะโทษระบบก็อาจจะต้องโทษตัวเองด้วย เพราะพวกเราก็คือส่วนหนึ่งของระบบเหมือนกัน

“ขยะที่ตกค้างก็จะมีมาทุกรูปแบบครับ ถ้าเราคัดกรองและเก็บออกไปได้ก็จะโชคดี แต่ส่วนที่ลอดเข้าไปได้ก็จะเข้าไปตกค้างในอุโมงค์ระบายน้ำ และทับถมเข้าไปเรื่อย ๆ เป็นชั้น ๆ

อย่างส่วนล่างสุดก็จะเป็นตะกอนดิน อีกชั้นก็จะเป็นพวกขวดแก้ว
อีกชั้นก็จะเริ่มเป็นพวกเศษไม้ ส่วนชั้นบน ๆ ก็จะเป็นพวกไม้หน้าสามที่รอดผ่านตะแกรงเข้ามา

ตัวที่น้ำหนักเยอะหน่อยก็จะนอนก้นแต่ถ้ามวลน้อยหน่อยก็จะลอย พอเราเอาขยะออกมากองมันก็สูงท่วมหัวเลยครับ”

หัวหน้างานเล่าให้เราฟังในเช้าตรู่วันหนึ่งที่สภาพอากาศดูไม่ค่อยจะเป็นใจนักสำหรับการเก็บขยะ

และเราคิดว่าถ้าไม่มีอะไรให้กิน ก็คงไม่มีสัตว์เข้ามาหาอาหารในนี้ นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีการเทเศษอาหารลงในท่อระบายน้ำอย่างล้นหลาม

ไม้ชิ้นใหญ่นี่ก็อันตรายเวลาไหลมาตามสายพานมาก มีครั้งนึงเราเกือบจะหลบไม่ทัน เพราะยืนอยู่ตรงปลายสายพานแล้วไม้ไหลออกมาพอดี ที่จริงพี่ ๆ เขาเตือนแล้วแหละ แต่ไม่นึกว่ามันจะพุ่งมาเร็วขนาดนี้…เกือบได้แผลที่หน้าผากแล้วสิ
ช่วง 7-8 โมงเช้า พี่ ๆ เค้าก็เริ่มลงไปเก็บขยะที่ลอยมาติดสถานีรับน้ำแล้ว ถ้าให้เราปีนลงไปเก็บตอนนี้ ก็คงจะร่วงลงไปในน้ำแน่ ๆ เพราะว่ายังไม่ค่อยตื่นดี

“อย่างพวกขยะที่เราเห็นพวกนี้เนี่ย มันลอยมากับน้ำ พอเราระบายน้ำมันก็จะวิ่งมากับน้ำ แต่พอเราหยุดระบายมันก็จะจมลงไปที่พื้นคลอง คือยิ่งเราระบายน้ำ ขยะมันก็จะยิ่งลอยเข้ามากองสะสม เราก็ยิ่งต้องรีบเก็บขยะเพื่อเปิดทางการระบายน้ำ ส่วนปริมาณนี่ วันนึงเยอะเป็น 10 ตัน ก็เจอมาแล้ว คือมันก็จะเป็นปัญหาและอุปสรรคในการระบายน้ำโดยตรง” หัวหน้างานพูดเสริมในขณะที่กำลังพาเดินดูรอบ ๆ

พอได้เห็นขยะที่ลอยมาติดแล้ว มันก็สะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับความมักง่ายเหมือนกัน คือส่วนมากมีแต่ขยะครัวเรือนแล้วก็ของกินของใช้ทั้งนั้น…หรือว่ากทม.มีถังขยะให้ไม่พอใช้กันนะ เพราะบางทีเราก็จำเป็นต้องเดินถือขยะหรือเก็บขยะใส่กระเป๋าอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะเจอถังขยะ

ตัวเงินตัวทองมักจะกินเศษอาหาร ของเน่าเปื่อย และสัตว์เป็น ๆ เช่น ไก่ หนู
แต่ถ้าในท่อไม่มีอะไรให้กิน ก็คงไม่มีสัตว์เข้ามาหาอาหารในนี้ นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีการเทเศษอาหารลงในท่อระบายน้ำอย่างล้นหลาม
ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุในเวลาใกล้เที่ยง ขยะและผักตบชวายังคงตักถูกขึ้นมาลำเลียงใส่บนสายพานอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงง่าย ๆ

ไม่รู้ว่าวันนี้จะได้เลิกงานกี่โมง

หลังจากน้ำไหลผ่านท่อระบายน้ำ ผ่านคลอง และสถานีรับน้ำ สูบน้ำ ต่าง ๆ สุดท้ายน้ำก็จะถูกปล่อยเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นจุดทิ้งน้ำ

ไม่แน่เหมือนกันว่าถ้าเรามีปัญหาขยะน้อยลง จะช่วยให้ปัญหาเรื่องการระบายน้ำจะน้อยลงมากแค่ไหน คงจะเถียงไม่ได้ว่านี่เป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงตัวระบบให้ดีขึ้น พร้อม ๆ กับสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชน

Loading next article...